หลายบ้านที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ คงเคยพบเจอปัญหาเครื่องปรับอากาศไม่เย็น ซึ่งทำให้เรากังวลว่า เครื่องปรับอากาศของเรานั้นจะเสียหายหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกว่าเครื่องปรับอากาศของเรานั้น หากไม่ดูแลรักษาหรือใช้งานหนักจนเกินไปก็อาจจะทำให้ลดอายุการใช้งานได้ ดังนั้น เราควรตรวจเช็คระบบเครื่องปรับอากาศหรือแม้กระทั่งคอยสังเกตเสียงหรืออาการที่ผิดปกติ เพื่อทำการแก้ไขทันที เพราะถ้าหากปล่อยไว้ก็อาจจะทำให้เรื่องปรับอากาศของเรานั้นเสียได้ เครื่องปรับอากาศที่ไม่เย็นนั้น อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรก หรือฝุ่น รวมไปถึงเชื้อโรคเข้าไปอุดตันคอมเพรสเซอร์แอร์จนทำให้ทำความเย็น และระบายความร้อนได้ไม่ดี จึงไม่สามารถทำความเย็นได้ดีเท่าที่ควร การล้างแอร์ตามเวลาที่เหมาะสมควรทำทุกๆ 4 – 6 เดือน เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและเย็นสบาย นอกจากนี้ หากภายในเครื่องปรับอากาศมีสิ่งกีดขวางทางลมทางเดินของอากาศ ก็ทำให้เครื่องปรับอากาศของเราไม่เย็นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการที่เครื่องปรับอากาศของเราไม่เย็นนั้น นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็มีในเรื่องของระบบน้ำยาของเครื่องปรับอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่เย็น นั่นก็คือ น้ำยาแอร์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยทำความเย็น ถ้าเครื่องปรับอากาศไม่เย็น สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอ แต่ถ้าเพิ่งเติมน้ำยาแอร์ไม่นานแต่ไม่เย็น ลองสังเกตดูว่ามันรั่วหรือไม่ น้ำยาแอร์ตันหรือไม่ เพราะสาเหตุเหล่านี้ทำให้น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอที่จะทำความเย็นนั่นเอง ซึ่งหลายบ้านที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็นมักจะพบเจอปัญหานี้ และอาจจะคิดว่า จะต้องเติมน้ำยาแอร์
แต่หลายคนคงเคยได้ยินว่า น้ำยาแอร์นั้น ไม่จำเป็นต้องเติม เพราะน้ำยาแอร์ไม่สามารถหมดไปได้ง่ายๆหากไม่เกิดการรั่วไหลออก ซึ่งวันนี้ทาง SN Service Solutions จะมาพูดเรื่องของเครื่องปรับอากาศไม่เย็น เราจะต้องเติมน้ำยาแอร์หรือไม่ ซึ่งต้องบอกว่า หากเครื่องปรับอากาศของเราไม่เย็นนั้น ขั้นตอนแรกเราจะต้องเช็คก่อนว่าสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เพราะการที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็นนั้น อาจจะเกิดจากสาเหตุที่มีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ภายในตัวเครื่องปรับอากาศ การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการถอดชิ้นส่วนภายในออกมาล้าง ทั้งส่วนของแผ่นกรองอากาศ คอลล์เย็นที่อยู่ภายใน โดยการใช้เครื่องปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาด จะทำให้สิ่งฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายในหลุดออกมา ทำให้อากาศไหลเข้าสู่ตัวเครื่องได้สะดวก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศให้ดีขึ้น ทำให้อากาศที่ออกมาจากตัวเครื่องเย็นฉ่ำ และช่วยประหยัดค่าไฟด้วย แต่ในการเติมน้ำยาแอร์นั้น หากเครื่องปรับอากาศมีอายุการใช้งานมามากกว่า 1 ปี จะต้องมีการพิจารณาจากจุดรั่วซึมของน้ำยาแอร์ว่ามีมากแค่ไหน เป็นสิ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จุดรั่วซึมที่พบบ่อยจะอยู่บริเวณจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ ในบางกรณีอาจเกิดจากท่อทองแดงมีการเสียดสีกัน จนทำให้น้ำยาแอร์ซึมออกมา หากน้ำยาแอร์มีการรั่วซึมออกมามาก ก็จะต้องมีการเติมน้ำยาแอร์มากและบ่อยมากขึ้น อัตราการเติมน้ำยาแอร์บ้านทั่วไป จะอยูที่ประมาณ 70 – 80 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพราะฉะนั้น ในการเติมน้ำยาแอร์นั้น เราจะต้องดูก่อนว่า มีจุดรั่วซึมหรือไม่ ถ้าหากน้ำยาแอร์ไม่มีการรั่วไหลจะทำให้น้ำยาแอร์จะไม่เสื่อมสลายตัวไปได้อย่างง่ายๆ ดังนั้น หลังจากล้างแอร์แล้ว หากไม่เกิดการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้ง
นี่ก็คือ ข้อสงสัยที่หลายคนเกิดข้อกังวลว่า เมื่ออร์ของเราไม่เย็นเราควรจะทำอย่างไร เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจแล้วว่า ถ้าหากไม่มีการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ก็ไม่จำเป็นจะต้องเติมน้ำยาแอร์ ในเบื้อต้นก็ควรที่จะล้างทำความสะอาดแอร์เพื่อที่จะได้มีอากาศไหลเวียนได้ดี ทำให้แอร์กลับมาเย็นสบาย กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของระบบปรับอากาศ ทาง SN Service Solutions เรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศภายในอาคาร เพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพ สะอาด และยังช่วยประหยัดในเรื่องของค่าไฟฟ้าได้ด้วย เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายของเครื่องปรับอากาศ และยังให้เครื่องปรับอากาศมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น
