การใช้งานเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าหลายคนคงใช้เป็นกันอยู่แล้ว เพราะแอร์ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมีอย่างแน่นอน เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ซึ่งเครื่องปรับอากาศก็มีความจำเป็นที่จะช่วยในการคลายร้อนได้ แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งบ้านไหนใช้งานทุกวัน ก็ต้องยอมเสียเงินจ่ายค่าไฟหลักพันเลยทีเดียว แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น
ถ้าเราใช้งานอย่างถูกต้อง ก็สามารถประหยัดค่าไฟไปได้เยอะ แถมยังช่วยรักษาอายุการใช้งานให้อยู่คู่กับบ้านได้นานอีกด้วย ในปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และมีฟังก์ชันที่เยอะมากขึ้น แถมยังมีเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ๆที่มีความทันสมัยขายมากขึ้นและกำลังเป็นที่นิยมด้วย ซึ่งแอร์รุ่นใหม่ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งการทำงานของเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์จะแตกต่างจากเครื่องปรับอากาศทั่วไป
ตรงที่อินเวอร์เตอร์เมื่อเริ่มเปิดเครื่อง อุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ หลังจากนั้นคอมเพรสเซอร์จะปรับรอบการทำงานลงเพื่อคงอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่ตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ทาง SN Service เราจะมาพูดถึงประเด็นที่ว่า แอร์อินเวอร์เตอร์แตกต่างจากแอร์ทั่วไปอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ทราบรายละเอียดและจะได้เลือกอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน และเพื่อการถนอมเครื่องปรับอากาศให้สามารถใช้ไปได้ยาวๆ
หากมองเผิน ๆ ก็จะพบว่าแอร์ทั้ง 2 ประเภทก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน แต่จะมีกระบวนการการทำงานที่แตกต่างกันในหลายด้าน ซึ่งแอร์ธรรมดาจะเป็นระบบที่ใช้การควบคุมอุณหภูมิห้อง ด้วยวิธีการ เปิด-ปิด การทำงานของระบบคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ทำความเย็นปรับอากาศให้เรานั่นเอง โดยระบบภายในคอมเพรสเซอร์แอร์ ชนิดนี้ จะไม่สามารถควบคุมการปรับระดับกำลังไฟได้ แต่สำหรับแอร์อินเวอร์เตอร์ เมื่อเราเปิดใช้งานระบบจะเร่งความเร็วมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ให้ทำความเย็นอย่างรวดเร็ว และเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด
มอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะทำงานเบาลง แต่ไม่หยุดการทำงาน โดยจะลดรอบการทำงานลงจนอยู่ในสถานะเกือบจะหยุดทำงาน แต่เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ตั้งไว้ 1-2 องศาเซลเซียส คอมเพรสเซอร์จะเร่งการทำงานมากขึ้น เพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ตามค่าที่กำหนด จึงทำให้อุณหภูมิโดยรวมของห้องมีความใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่กำหนดไว้มากกว่าแอร์ธรรมดาที่ไม่ใช่ระบบอินเวอร์เตอร์นั่นเอง
โดยแอร์อินเวอร์เตอร์ เหมาะสำหรับติดตั้งในห้องที่ใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ห้องที่ต้องการความเงียบ และต้องการรักษาอุณหภูมิของห้องอย่างสม่ำเสมอ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ออฟฟิศ ห้องอ่านหนังสือ เป็นต้น และไม่เหมาะกับสถานที่หรือห้องที่มีอุณหภูมิแกว่งตลอดเวลา เช่น ห้องที่มีการเปิด-ปิดประตูบ่อย อย่าง ร้านกาแฟ หรือ ห้องนั่งเล่น ในขณะเดียวกัน แอร์อินเวอร์เตอร์ จะเป็นระบบที่ไม่เกิดการกระชากไฟ ทำให้ไม่เปลืองไฟ เพราะการกระชากไฟหนึ่งครั้ง ทำให้เกิดการกินไฟพอสมควร ทำให้เป็นจุดเด่นของแอร์อินเวอร์เตอร์ คือ ช่วยประหยัดค่าไฟได้ดี แต่แอร์แบบธรรมดา จะมีข้อดีคือราคาถูกกว่า
เนื่องจากมีการปล่อยลมเย็นในทุกรอบการต่อการทำงาน ทำให้รู้สึกว่าแอร์ธรรมดาจะเย็นฉ่ำกว่า ส่วนข้อเสียของแอร์ธรรมดา ก็คือจะเปลืองไฟมากกว่า มีเสียงตัด-ต่อการทำงาน และทำให้อุณหภูมิห้องแกว่งมากกว่า เหมาะกับห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้งานแอร์บ่อยมากนัก หรือสถานที่ที่ต้องการความเย็นโดยไม่เน้นความเที่ยงตรงของอุณหูมิ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องที่มีการเปิดเข้า-ออกบ่อยๆ ซึ่งหากเราจะเลือกก็ต้องลองพิจารณาถึงการใช้งานและเลือกให้เหมาะสมก็จะช่วยประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลยทีเดียว และช่วยทำให้เรายืดอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกด้วย หากเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานที่